|
|
Q: เมล็ดพันธุ์ดีคืออะไร
A: เมล็ดพันธุ์ดี คือ เมล็ดพันธุ์ที่มีความบริสุทธิ์ (purity) ตรงตามลักษณะของสายพันธุ์ ขนาดของเมล็ดมีความสม่ำเสมอ และเมล็ดต้องมีความสะอาด ปราศจากสิ่งเจือปน ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดวัชพืชอื่น เมล็ดพันธุ์อื่น มอดแมลงต่างๆ เศษดิน ฯลฯ เมื่อนำมาเพาะปลูกแล้ว ต้องมีความงอกสูง งอกสมบูรณ์ แข็งแรง ไม่มีเมล็ดตายหรือเมล็ดเน่า ทนทานต่อโรคและแมลงได้ดี ที่สำคัญให้ผลผลิตสูง และเป็นพันธุ์ที่มีความต้องการของท้องตลาด (ที่มา : เว็บไซด์ของกรมการข้าว) |
Q: ใช้เมล็ดพันธุ์ดีแล้วได้อะไร
A:1. ได้ผลผลิตคุณภาพดีตรงตามสายพันธุ์
2. มีความงอกและความแข็งแรงสูง
3. ได้ผลผลิตสูง
4. ลดปัญหาการปลูกซ่อมแซมหรือปลูกใหม่
5. ลดปัญหาพันธุ์ปน วัชพืช
6. มีความต้านทาน โรคและแมลงได้ดีขึ้น
7. ลดต้นทุนการผลิด เนื่องจากไม่ต้องใช้เมล็ดเปลือง
8. ลดความเสี่ยง ความเสียหายของเกษตรกร และเศรษฐกิจ เนื่องจากการใช้เมล็ดพันธุ์ดี มีส่วนทำให้ได้ผลผลิตดี มีคุณภาพ จึงเป็นที่ต้องการของตลาด และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และประเทศชาติ (ที่มา : หนังสือการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว สำนักเมล็ดพันธุ์ข้าว กรมการข้าว) |
Q: พันธุ์ข้าวที่บริษัทผลิตและจำหน่าย มีพันธุ์อะไรบ้าง
A: เมล็ดพันธุ์ข้าวที่บริษัทผลิตและจำหน่าย ได้แก่
- กข.29
- กข.31
- กข.41พวง
- กข.47
- กข.49
- หอมปทุม (ปทุมธานี1)
- หอมมะลิ 105
- พิษณุโลก 2 (พล.2)
- ชัยนาท 1 |
Q: ฤดูหนาวควรใช้พันธุ์อะไร
A: ฤดูหนาว ควรใช้ข้าวทนต่อสภาพหนาวและโต้ลมได้ดี ซึ่งเป็นข้าวที่มีลักษณะมีคอรวง เช่น พันธุ์ กข.31 ซึ่งเมื่อกระทบกับอากาศหนาวเย็น ในช่วงตั้งท้องหรือออกดอก ผลผลิตจะไม่ค่อยเสียหายหรือเสียหายน้อย แต่คอรวงจะสั้นลงหรือหดลงบ้าง อันเนื่องมาจากสภาพอากาศหนาว นอกจากนี้ยังเป็นพันธุ์ที่ต้านทานต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (ที่มา : เว็บไซด์กรมการข้าว) |
Q: ฤดูฝนควรใช้พันธุ์อะไร
A: เนื่องจากฤดูฝน สามารถปลูกข้าวได้ผลผลิตดีเกือบทุกสายพันธุ์ หากต้องการลดความเสี่ยงความล้มจมน้ำ หรือน้ำท่วม ควรเลือกพันธุ์ข้าวที่ต้นเตี้ย ไม่มีคอรวง หรือคอรวงสั้น อายุสั้น เช่น พันธุ์ กข.41พวง จะเหมาะสม เนื่องจากเป็นข้าวต้นเตี้ย ไม่มีคอรวง อายุเก็บเกี่ยว (น่าหว่าน 95-100วัน และในนาดำ 95-105 วัน) นอกจากนี้เป็นพันธุ์ที่มีลักษณะรวงเป็นพวงหางกระรอก ระแง้ถี่ เมล็ดซ้อน ทำให้ได้ผลผลิตสูง |
|
|
